มารู้จักกับ SMS Sender พร้อม วิธีการตั้งชื่อผู้ส่ง SMS อย่างง่ายตามที่ต้องการ

SMS Sender คืออะไร?

 

SMS Sender หรือ Sendername คือ ชื่อสำหรับระบุตัวตนของผู้ส่งข้อความ SMS ที่จะปรากฏให้ผู้รับข้อความ ทราบได้ว่าใครเป็นผู้ส่งข้อความดังกล่าวมา โดยทั่วไปมักจะนิยมใช้ SMS Sender เป็นชื่อขององค์กร หรือบริษัทนั้นๆ เพื่อให้ผู้รับข้อความทราบได้ทันทีว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาจากที่ใดนั่นเองค่ะ

ความสำคัญของการใช้งาน SMS Sender

 

สำหรับการโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์นั้น มีหลากหลายช่องทางเป็นอย่างมากเลยนะคะ และหนึ่งในช่องทาง ที่ธุรกิจให้ความสำคัญมาตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบัน นั่นก็คือการใช้ “บริการส่งข้อความ SMS” นั่นเองค่ะ เพราะเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้รับได้โดยตรง ผู้รับไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต ก็สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้ค่ะ

ความสำคัญของ SMS Sender

ลองคิดภาพดูนะคะว่า หากธุรกิจของคุณใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ในการส่งข้อความไปยังลูกค้า เพื่อที่จะแจ้งข่าวสารโปรโมชั่น หรือ แจ้งเตือนข้อมูลธุรกรรมผ่านข้อความ OTP ลูกค้าจะมีความกังวลใจหรือไม่? เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของผู้ส่งข้อความก็คือการใช้งาน SMS Sender ในการส่ง โดยอาจจะใช้ชื่อบริษัท หรือชื่อองค์กร เพื่อทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาจากบริษัทนั้นๆจริงนั่นเองค่ะ

ขั้นตอนในการลงทะเบียน SMS Sender

1. ชื่อ SMS Sender ที่ต้องการลงทะเบียน (ภาษาอังกฤษไม่เกิน 11 ตัวอักษร รวมตัวเลข อักขระพิเศษ และเว้นวรรค)

2. หนังสือรับรองบริษัท หรือ ภพ 20

3. ตัวอย่างของข้อความที่จะใช้ในการส่ง

4. เว็บไซต์ของบริษัท

ข้อดีของการใช้ Sender Name

เริ่มจากการตั้ง Sender Name ช่วยเพิ่มความมั่นใจ หากต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้การตลาด ผ่านการสื่อสารด้วยการส่งข้อความ แน่นอนว่าการสร้าง Sender Name จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจเป็นอย่างมากเลยนะคะ ยิ่งในปัจจุบันนี้มี SMS แปลกปลอมจำนวนมาก บางครั้งเป็น SMS ส่งลิงก์มาแฝงตัวมาขโมยข้อมูลส่วนตัวก็มี ถ้าไม่ได้ตั้งชื่อผู้ส่ง เวลาส่งข้อความก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าเปิด SMS ของเรา และไม่กล้าใช้สิทธิประโยชน์ หรือโปรโมชั่นที่เราส่งไปให้อย่างแน่นอนเลยค่ะ

นอกจากนี้ การตั้งชื่อ Sender Name ยังทำให้ลูกค้าเกิดความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ เพราะเราใส่ใจลูกค้า และดูแลตลอดไม่ได้ทิ้งขว้าง อีกทั้ง ค้นหาง่ายในช่องข้อความ เพียงพิมพ์ชื่อ Sender ก็เรียกข้อมูลย้อนหลังมาได้ครบถ้วนแล้วค่ะ
อย่างไรก็ดี การส่ง SMS ถึงลูกค้าแบบมี Sender Name ยังช่วยลดค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้อีกด้วยนะคะ เนื่องจากเห็นชื่อชัดเจนรู้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหนอย่างไร ยิ่งถ้ามีลิงก์ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ใช้งานได้ทันทียิ่งมากเลยค่ะ

ตัวอย่างตั้งชื่อ Sender Name 

 

จะบอกว่า การซื้อแพคเกจ SMS Marketing ส่วนใหญ่จะให้ชื่อ Sender ประมาณว่า SMS, DEMO, WELCOME เป็นต้นนะคะ เรามาแบ่งชื่อ Sender Name ตามกลุ่มธุรกิจต่างๆ มาให้ดูกันนะคะ ว่าตั้งยังไง ตามมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

– ควรตั้ง Sender Name เป็นตัวเลขหรือภาษาอังกฤษ อย่างน้อย 4 ตัวอักษร รวมกันไม่เกิน 10 ตัวอักษร
– หากจำเป็นต้องใส่ตัวอักขระพิเศษสามารถใช้งานได้คือ . (dot) – (Hyphen) และ _ (underscore)
– ไม่ต้องเว้น Spapcebar
– มีข้อจำกัดคือไม่สามารถตั้ง Sender Name เป็นภาษาไทยได้

จากข้อกำหนดข้างต้น ควรใช้ตัวย่อของธุรกิจที่อ่านแล้วเข้าใจ และตรงไปตรงมา และต้องไม่เกิน 10 ตัวอักษรด้วย บางบริษัทใช้เป็นตัวย่ออ้างอิงชื่อย่อหลักทรัพย์ บางแห่งใช้เป็นเว็บไซต์ธุรกิจก็มี แต่ในที่นี้เว็บต้องไม่ยาวเกินนะคะ อย่างไรก็ดี บางครั้งอาจจะหยิบไอเดียเบอร์โทรหมายเลขพิเศษ 4 หลักมาใช้ก็ได้ค่ะ ก็ช่วยให้จำง่ายเหมือนกันนะคะ

สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการตั้งชื่อ Sender อาจจะต้องใช้เวลาให้ระบบยืนยันการตั้งชื่อ Sender ประมาณ 5-7 วันทำการ ในระหว่างรอเปลี่ยนชื่อก็สามารถใช้ Sender Name เบื้องต้นที่ได้รับมาก่อนได้เช่นกัน เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ SMS Marketing ทำการตลาดได้แล้วค่ะ